[Wanna One] When the strongest man falls in love #02

Wanna One fanfic

Pairing: Lai Kuanlin x Park Jihoon

Rate: PG15

Genre: Romantic comedy

#fallsinloveหลินฮุน Chapter #01

 

 


 

 

เรื่องที่พัคจีฮุนตกตกหลุมรักไลควานลินตั้งแต่แรกเห็นอยู่ในหัวของแดฮวีตลอดคาบเช้าแทนที่จะเป็นภาษาอังกฤษและสูตรคณิตศาสตร์ การที่ได้เห็นรุ่นพี่สุดเท่ทำสายตาแบบนั้นค่อนข้างช็อกพอสมควร แดฮวีมั่นใจว่านั่นเป็นอาการตกหลุมรักแน่ๆ เพียงแค่รุ่นพี่ปากแข็งยอมรับเรื่องนั้นได้ยากซักหน่อย

 

“พี่จีฮุน…พี่ชอบความลินเหรอ?” แดฮวีถามตรงๆ และแน่นอนว่าอีกฝ่ายปฏิเสธทันทีพร้อมกับบิดขวดน้ำในมือไปมาแบบไม่มีเหตุผล

 

“หะ เปล่า ชอบอะไร ไม่ได้ชอบ”

 

“แต่พี่มองเขาตาเยิ้ม แถมยังชมว่าหล่ออีก” เด็กหนุ่มจี้

 

“…………ก็..ใช่ หน้าตาใจดีแบบที่ชอบเลย….” แล้วจีฮุนก็ยิ้มเขินไม่รู้ตัวอีกครั้ง ถึงจะดูน่ารักดีก็เถอะ แต่แดฮวีก็อยากให้พี่ยอมรับ จะได้รู้ว่าควรทำยังไงต่อ และแน่นอนว่าขวดน้ำในมือก็โดนบิดไปมาหนักกว่าเดิม

 

“พี่จีฮุน….พี่ชอบควานลินแล้วจริงๆนะ”

 

“พี่เปล่านะ!” ขวดน้ำที่น่าสงสารโดนบิดกร๊อบแกร๊บจนน่ากลัวว่าจะแหลกคามือ แดฮวีรีบดึงแขนพี่ไปคุยที่ส่วนอื่นของโรงเรียนที่คนน้อยกว่านี้ ไม่ใช่ที่หน้าตึก ถ้าเป็นคนอื่นคงไม่กล้าจับแขนจีฮุนแบบนี้แน่ ต่อให้เป็นพวกพี่แดเนียลก็เถอะ

 

เด็กหนุ่มพาจีฮุนเดินอ้อมมาที่หลังตึกที่มีคนเดินผ่านไปผ่านมาน้อยกว่า ใครที่เห็นทั้งสองก็ต่างเดินเลี่ยงกันไปหมดเพราะรู้ดีถึงชื่อเสียจนไม่กล้าเข้ามาข้องเกี่ยวในทางใด แต่ก็นับเป็นเรื่องดีอยู่เหมือนกัน เขาจะได้ไล่ถามจีฮุนไปจนกว่าเจ้าตัวจะยอมรับ

 

“โอเค ผมถามหน่อย พี่รู้สึกยังไงตอนเห็นหน้าควานลิน?” แดฮวีกอดอกเก๊กหน้าโหด ถึงจะไม่ได้ดูน่ากลัวก็เถอะ แต่คนพี่ก็รู้สึกได้ว่าน้องกำลังจริงจัง มือยกขึ้นขยี้ผมจนยุ่งเพราะไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยนี้ยังไง

 

“ม-มันก็…..ใจเต้นแรงอะ ไม่เหมือนตอนจะไปมีเรื่องชกต่อย แล้วก็…พอมองหน้าเด็กนั่นก็เหมือนโลกมันสโลว์โมชั่นเลยอะ นายเข้าใจมะ แล้วทุกอย่างแม่งเปล่งประกายโคตรๆ”

 

“อือฮึ…เหมือนเวลามองหน้าพี่จินยอง”

 

จีฮุนหันขวับ “ว่าไงนะ?”

 

“ป-เปล่า ไม่มีอะไร แต่ก็เข้าใจแหละ ถึงบอกไงว่าพี่ตกหลุมรักควานลินแล้ว ไม่เคยมีอาการแบบนี้ใช่มั้ยล่ะ?” แดฮวีแกล้งใช้ศอกถองพี่เบาๆและเปลี่ยนเรื่องหนีแบบเนียนๆ คนอายุมากกว่ายิ้มเขินออกมาอีกครั้ง

 

“อือ…งั้น…ก็คงชอบ อยากได้อะ….”

 

ไอ้คำว่า ‘อยากได้อะ’ นี่แหละที่ทำเอาเครียดขนาดนี้… แปลว่าอะไรวะ อยากจีบควานลินเหรอ? แต่อย่างพี่จีฮุนไม่มีทางจีบใครเป็นแน่ๆ และคนที่ซวยคือเขาอย่างไม่ต้องสงสัย

 

แต่เอาวะ…เพื่อพี่จีฮุน

 

“ควานลิน ปกติตอนกลางวันกินข้าวกับใครเหรอ?” เด็กหนุ่มหันไปถามคนที่นั่งโต๊ะข้างหลังตน เพราะควานลินตัวสูงที่สุดในชั้นเรียน เขาจึงนั่งด้านหน้าไม่ได้

 

หนุ่มไทเปเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะ แม้จะสวมแว่นสายตาอยู่ก็ดูดีไม่หยอก “หือ ก็ไม่ได้กินกับใครหรอก ตรงไหนว่างก็นั่งตรงนั้นน่ะ”

 

“งั้นกลางวันนี้ไปนั่งด้วยกัันมั้ย? จะได้แนะนำให้รู้จักคนอื่นๆด้วย”

 

“คนอื่น?”

 

“พวกเพื่อนพี่จีฮุนไง”

 

 


 

 

นี่แม่งเป็นมื้อกลางวันที่น่าอึดอัดที่สุดในชีวิตของพัคจีฮุน

 

ใครจะไปรู้ว่าจู่ๆแดฮวีจะไปชวนควานลินมานั่งกินข้าวที่โรงอาหารด้วยเฉย แถมยังไล่มานั่งข้างเขาอีก ที่สำคัญคือเขาไม่ได้กินข้าวคนเดียว ทั้งจินยอง อูจิน และแดเนียลก็อยู่ด้วย สามคนนั้นจ้องควานลินจนแทบไม่สนใจอาหารถาดหลุมตรงหน้า อันที่จริง…คนทั้งโรงอาหารก็จ้องพวกเขาอยู่ คงสงสัยแน่ๆว่าทำไมหนุ่มสุดเพอร์เฟคถึงมานั่งกับกลุ่มนักเลงประจำโรงเรียนได้ แต่แน่นอนว่าไลควานลินก็ยังไม่รู้เรื่องนั้นอยู่ดี ไม่ได้สังเกตซักนิดว่าตัวเองกำลังถูกล้อมไปด้วยกลุ่มหัวโจกที่ไม่มีใครกล้ามานั่งโต๊ะใกล้ๆ ยังคงคีบข้าวผัดกิมจิใส่ปากด้วยรอยยิ้ม แถมเป็นรอยยิ้มที่พัคจีฮุนแพ้มากๆด้วย

 

แม่ง…เขินก็เขิน แต่ก็เขินได้ไม่สุดเพราะกลุ่มเพื่อนที่เหลือนั่งอยู่ด้วยนี่แหละ โดยเฉพาะแดเนียล ยิ้มแบบนั้นแปลว่ารู้อะไรแน่ๆ

 

“พี่จีฮุนไม่กินไก่ทอดเหรอ?” เด็กตัวสูงข้างๆที่กินเอาๆหันมาถาม แถมยังทำท่าจะเอาตะเกียบมาคีบไปอีกต่างหาก คนอื่นที่เหลือกลั้นหายใจโดยพร้อมเพรียงกัน เป็นอันรู้กันว่าใครหยามศักดิ์ศรีพัคจีฮุน….โดนกระทืบ ใครยุ่งกับของกิน…..มีถึงตาย

 

“อ่า…อืม วันนี้ไม่ค่อยอยากกินเท่าไหร่ เอาไปสิ” แล้วไก่ทอดกรอบๆในถาดของจีฮุนก็ถูกคีบไปโดยไทเปบอย จินยองและอูจินหน้าซีดเหมือนเห็นผี ส่วนแดเนียลกำลังกลั้นขำจนต้องชกท้องตัวเอง มีีแค่แดฮวีที่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

 

พัคจีฮุนเคยแบ่งไก่ทอดให้ใครที่ไหน พวกเขาเองยังไม่เคยได้ไก่ทอดจากจีฮุนเลยด้วยซ้ำ

 

“นาย…ไลควานลินใช่มั้ย?” อูจินถามขึ้น ช่วยทำลายบรรยากาศน่าอึดอัดบนโต๊ะอาหาร “มาจากไต้หวันแต่พูดเกาหลีชัดดีนี่”

 

“ผมเรียนเกาหลีก่อนมาที่นี่ครับ แต่ยังไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ ยังต้องเรียนอีกเยอะเลย” ควานลินตอบอย่างสุภาพ หรือเพราะตอนนี้ใช้เป็นแต่รูปประโยคแบบสุภาพก็ไม่รู้ “ตอนอยู่ที่ห้องเรียนก็ได้แดฮวีช่วยอธิบายเยอะเหมือนกันครับ”

 

คนถูกเล่าวถึงรีบเอื้อมมือไปหยิกต้นขาจินยองที่เริ่มทำหน้าตาบอกบุญไม่รับข้างๆตัว จินยองปิดปากเงียบ จีฮุนก็ยังนั่งเขิน ที่โต๊ะนี้ดูเหมือนจะมีแค่แดเนียลคนเดียวที่กำลังสนุก เจ้าของไหล่กว้าง60เซนติเมตรโน้มตัวเข้ามาหาอย่างสนอกสนใจ

 

“แล้วย้ายมาเกาหลีใต้ทำไมอะ? แถมยังมาเข้าโรงเรียนแบบนี้อีก รู้ใช่ป่ะว่าชื่อเสียงโรงเรียนไม่ค่อยดี” แล้วแดเนียลก็โดนจีฮุนเตะขาใต้โต๊ะไปอย่างแรง ควานลินท่าทางยังไม่รู้แน่ๆว่าพวกเขาเป็นนักเลง (ย้ำอีกครั้งว่ายกเว้นแดฮวีที่เป็นไข่ในหินของกลุ่ม) และจีฮุนก็ไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้ด้วย

 

“ผมย้ายตามพ่อมา พ่อผมมาทำงานที่นี่ก็เลยขนกันมาทั้งครอบครัว พี่สาวผมเรียนมหาลัยที่เกาหลีใต้อยู่แล้วด้วย” ควานลินตอบอย่างตรงไปตรงมาไม่มีปิดบัง ไม่ได้ดูซื่อแค่หน้าตาจริงๆ “ผมย้ายมาตอนช่วงเพิ่งเปิดเทอม แต่กว่าจะจัดการเรื่องนู่นนี่ลงตัวก็กลางเทอมเข้าไปแล้ว มีแต่ที่นี่ที่รับผมเข้า”

 

คำตอบที่ออกมากลางๆทำให้จีฮุนแอบโล่งใจ อย่างน้อยก็ไม่ได้พูดออกมาตรงว่า ‘พี่จีฮุนเป็นนักเลง’ ล่ะวะ

 

“ฉันชอบเด็กนี่จัง” แดเนียลหัวเราะด้วยสีหน้าที่มักจะถูกจีฮุนพูดใส่บ่อยๆว่าดูโง่ ร่างสูงลุกขึ้นจากโต๊ะพร้อมกับถาดหลุมที่ว่างเปล่า “เดี๋ยวจะไปสูบบุหรี่ละ ไว้เจอกัน”

 

“ไปด้วย / เหมือนกัน” ทั้งอูจินและจินยองประสานเสียงและรีบลุกตามแดเนียลไปทันที ทิ้งอีกสามคนไว้ที่โต๊ะอาหาร แดฮวียังไม่กล้าทิ้งจีฮุนไว้กับควานลินสองคนแม้ว่าจะทานเสร็จแล้วก็ตามเพราะกลัวว่ารุ่นพี่จะเขินตัวแตกไปเสียก่อน จีฮุนที่ปกติกวาดอาหารเรียบไม่เหลือกลับกินช้าขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเมื่อควานลินมานั่งอยู่ข้างๆ คอยส่งยิ้มละลายใจให้ทุกครั้งที่หันมาหา

 

“พี่จีฮุนกินน้อยจัง” แดฮวีถึงกับเถียงในใจทันทีว่าโดนหลอกเข้าแล้ว “ปกติตอนพักเที่ยงทำอะไรเหรอครับ?”

 

“เอ่อ………” คำตอบในหัวคนถูกถามตอนนี้มีแต่เรื่องสูบบุหรี่ นัดมีเรื่องต่อยตีกับคนอื่น ไปจนถึงโดดออกนอกโรงเรียน ซึ่งถ้าพูดออกไปคงไม่ดีแน่ๆ ดวงตากลมหลุกหลิกขอความช่วยเหลือจากรุ่นน้อง

 

“อ-เอ้อออ จริงสิ เพิ่งนึกขึ้นได้ พี่จีฮุนบอกว่ามีการบ้านต้องทำไม่ใช่เหรอ รีบไปได้แล้ว เดี๋ยวผมช่วย” แดฮวีรีบคว้าแขนรุ่นพี่ตัวเล็กให้ลุกขึึ้นตาม นี่เป็นข้ออ้างที่ดีที่สุดเท่าที่เขานึกออก “เจอกันบนห้องนะควานลิน”

 

“อ่า โอเค”

 

โชคดีที่ควานลินดูจะไม่สงสัยอะไร แดฮวีรีบพาจีฮุนไปคุยเป็นการส่วนตัวที่หลังโรงเรียน เขารู้ดีว่าที่ดาดฟ้าตอนนี้คงโดนแดเนียลยึดไว้ และจีฮุนไม่กล้าพูดเรื่องนี้ต่อหน้าพี่ๆพวกนั้นแน่

 

“โอ๊ย ฉันเป็นบ้าอะไรวะเนี่ย..” จีฮุนหย่อนตัวลงบนม้านั่งพลางขยี้ผมตัวเองอย่างหัวเสีย พออยู่ต่อหน้าไลควานลินกลายเป็นว่าเขาไม่เป็นตัวของตัวเองเลยซักนิด ข้าวก็กินไม่หมด ยอมยกไก่ทอดของโปรดให้ง่ายๆแถมยังไม่กล้ามองหน้าตรงๆด้วยซ้ำ

 

“พี่อาการหนักกว่าที่ผมคิดอีก” แดฮวีถอนหายใจและนั่งลงข้างๆ “พี่โคตรเขินควานลินเลยนะ รู้ตัวมั้ย?”

 

“พี่ทำตัวไม่ถูกเวลาอยู่ต่อหน้าควานลิน พี่ไม่อยากให้เขารู้ว่าพี่เป็นนักเลงด้วย…ดูสภาพเขาสิ อย่างกับมีคำว่านักเรียนดีเด่นแปะบนหน้าผาก” คนอายุมากกว่าบ่นความในใจออกมายาวยืด แต่ไลควานลินก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เป๊ะทุกระเบียดนิ้วจนทำให้ดูเด่นขึ้นมาในโรงเรียนที่มีแต่เด็กเก ถึงแดฮวีจะแต่งตัวเป๊ะเหมือนกัน แต่กลับให้ความรู้สึกต่างกันโดยสิ้นเชิง “….แดฮวี พี่ควรทำไงดี”

 

“พี่อยากให้ผมช่วยจริงๆเหรอ?”

 

“อืม พี่อยากได้อะไรก็ต้องได้ ให้ยกควานลินให้คนอื่นน่ะไม่เอาหรอก”

 

จีฮุนชอบบอกเสมอว่าแดฮวีน่ารักน่าเอ็นดู แต่เจ้าตัวก็ไม่รู้เลยว่าตัวเองก็น่ารักน่าเอ็นดูเหมือนกันนั่นแหละ แดฮวียืนยันได้

 

น้องเล็กของกลุ่มฉีกยิ้มกว้าง รู้สึกว่าเรื่องนี้จะต้องสนุกแน่ๆ “พี่ต้องปรับลุคตัวเองนะ พี่ต้องดูน่ารัก”

 

คนฟังถึงกับทำหน้าเจื่อน คำว่าน่ารักไม่เคยอยู่ในพจนานุกรมของพัคจีฮุน อย่างเขามันต้องคำว่าหล่อมาดแมนสมชายสิ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน “น่ารัก…? พี่เนี่ยนะ? ไม่มีทางอะ”

 

“โหพี่ มันไม่ยากขนาดนั้นซักหน่อย” แดฮวีทำปากยื่น “พี่แค่ต้องทำตัวไม่ห้าว ไม่ใช้กำลัง พูดจาสุภาพ ยิ้มเยอะๆ ใครมาหาเรื่องก็ห้ามโต้ตอบ แค่นี้เอง”

 

“…แดฮวี นั่นมันโคตรยากเลยนะ”

 

รุ่นน้องได้แต่ยิ้มแห้งๆเมื่อมันเป็นเรื่องยากจริงอย่างที่จีฮุนว่า จู่ๆจะให้คนนิสัยนักเลงมาทำตัวอ่อนโยนต่อโลกมันก็ไม่ใช่ ยกเว้นแต่จับหัวไปกระแทกอะไรแรงๆจนนิสัยเปลี่ยนนั่นแหละ แต่นี่ไม่ใช่ซีรีย์น้ำเน่า เพราะงั้นเรื่องแบบนั้นไม่มีทางเกิดขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าแดฮวีจะไม่มีแผนอะไรในหัวเลยเช่นกัน

 

“เอาน่า พี่เชื่อมือผม เดี๋ยวเย็นนี้เรากลับด้วยกัน ผมรู้ว่าต้องทำยังไง”

 


 

ที่ดาดฟ้าของอาคารเรียนหลักเป็นที่รับรู้ทั่วไปในหมู่นักเรียนว่าเป็นสถานที่ที่ไม่ควรขึ้นมา 1. เพราะกฎของโรงเรียนห้าม และ 2. เพราะนี่คืออาณาเขตของกลุ่มที่ไม่มีใครกล้าหาเรื่องด้วย มันถูกใช้เป็นสถานที่โดดเรียนมาสูบบุหรี่ เล่นเกม กินขนม หรือแม้แต่หิ้วใครมาทำการสั่งสอน และตอนนี้..แม้ว่าจะอยู่กันไม่ครบแก๊ง..แต่ดาดฟ้าก็ถูกยึดครองโดยกลุ่มของพัคจีฮุนอยู่ดี

 

“พวกนายสองคนคิดว่าไง?” เสียงทุ้มของแดเนียลถามขึ้นทั้งที่คาบบุหรี่อยู่ในปาก เขาโยนไฟแช็คให้อูจินที่นั่งอยู่ตรงข้ามก่อนจะใช้นิ้วคีบบุหรี่ออกจากปาก พ่นควันสีเทาพร้อมกับถอนหายใจ

 

“เรื่องไอ้เด็กควานลินน่ะเหรอ?” จินยองที่รอรับไฟแช็คต่อจากอูจินถามกลับ “จีฮุนท่าทางถูกใจหมอนั่นน่าดู”

 

“แต่ฉันว่ามากกว่าถูกใจว่ะ” แดเนียลเหยียดยิ้มและอัดนิโคตินเข้าปอดอีกครั้ง “ดูท่าทางของจีฮุนสิ”

 

“เออ หมอนั่นไม่เคยเป็นแบบนั้นเลยนะ ดูเกร็งซะขนาดนั้น เพิ่งเจอกันด้วยรึเปล่า?” อูจินออกความเห็นบ้างและส่งต่อไฟแช็คให้จินยองที่รออยู่

 

“ฉันหมายความว่า….ลูกพี่เราท่าทางจะ—”

 

“นินทาอะไร” เสียงดุๆของผู้มาใหม่ทำเอาทั้งสามคนหันขวับ จีฮุนยืนกอดอกมองด้วยสายตากดดันโดยมีแดฮวีปิดประตูเหล็กที่เป็นทางขึ้นมายังดาดฟ้าเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีใครขึ้นมาได้อีกอยู่ที่ด้านหลัง ร่างเล็กหย่อนตัวนั่งลงข้างอูจิน เคาะบุหรี่ออกมาจากกล่องและจุดสูบด้วยไฟแช็คของตัวเอง ส่วนแดฮวีก็นั่งข้างจินยองตามคาด

 

“ก็กำลังคุยเรื่องนายนั่นแหละ” แดเนียลตอบด้วยรอยยิ้ม เขาไม่มีเจตนาอะไรจะปิดบังทั้งนั้น และอยากถามจีฮุนตรงๆมากกว่าด้วย มือหนาขยี้บุหรี่กับพื้นซีเมนต์ “นายชอบควานลินเหรอ?”

 

คนถูกถามถึงกับสำลักควันบุหรี่และไอจนตัวโยน อูจินต้องรีบลูบหลังให้อาการดีขึ้นก่อนที่จะมีคนขาดใจตายไปซะก่อน พัคจีฮุนใช้แขนเสื้อเช็ดหน้าเช็ดตาลวกๆและหันไปหาคนที่น่าสงสัยที่สุดทันที

 

“แดฮวี!”

 

“ผมไม่ได้บอกนะพี่!”

 

“ไม่มีใครมาบอกหรอกน่า รู้เอง” แดเนียลรีบปรามก่อนที่น้องเล็กจะโดนลูกพี่ดุ “แต่แบบนี้ก็แปลว่าเรื่องจริงล่ะสิ?”

 

จีฮุนเดาะลิ้นอย่างขัดใจที่โดนเพื่อนในกลุ่มจับได้ เขากะจะเก็บเรื่องนี้เงียบๆและให้รู้แค่แดฮวีเท่านั้น แต่ก็อย่างว่า คังแดเนียลไม่ใช่คนโง่…..ถ้าไม่ใช่เรื่องเรียนล่ะก็นะ

 

“เออ ชอบควานลิน อยากได้ด้วย มีปัญหาอะไรรึไง?” ให้พูดตรงๆออกมาต่อหน้าเจ้าพวกนี้ก็เขินใช่เล่น ยิ่งแดเนียลผิวปากแซวแบบนั้นด้วยแล้ว สายตาคาดโทษถูกส่งไปให้ทันที “ใครแซวโดนดีแน่ อยากลองรึไง”

 

“ไม่ล่ะ แต่แค่อยากรู้ว่า..ได้ไง?” จินยองถามด้วยสีหน้าจริงจัง

 

“ไม่รู้ว่ะแม่ง…” จีฮุนดูดบุหรี่จนตรงปลายสว่างวาบเป็นสีส้ม เขาพ่นควันออกมาพลางพูด “ก็ตั้งแต่บังเอิญเจอกันครั้งแรกมันก็รู้สึกไม่ปกติแล้ว ดูดีจนละสายตาไม่ได้ พอเข้าใจมั้ยล่ะ”

 

“อาการแบบนี้รักแรกพบชัวร์” อูจินหันไปพยักหน้ากับแดเนียล เป็นอันเข้าใจตรงกันหมดว่าลูกพี่จีฮุนของพวกเขากำลังปิ๊งหนุ่มไต้หวัน และเรื่องนี้มันก็น่าสนุกโคตรๆ โดยเฉพาะถ้าพวกเขาได้มีส่วนร่วมช่วยให้ลูกพี่ได้สมหวังด้วย “แล้วจะจีบเด็กนั่นด้วยป่ะ?”

 

“จีบสิวะ” ลูกพี่ตอบอย่างหนักแน่น “ใครแย่งจะตามไปต่อยหน้าแหกเลยอะ”

 

“แล้วมั่นใจได้ยังไงว่าหมอนั่นไม่มีแฟนอยู่แล้ว เห็นเสน่ห์แรงขนาดนั้น” จินยองถาม และคราวนี้น้องเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆเป็นคนตอบ

 

“ไม่มีๆ เชื่อผม ผมอยู่ห้องเดียวกันควานลิน แต่ว่า…” แดฮวีเกาหัวและยิ้มแห้งๆให้กับสายตากดดันที่ถูกส่งมาจากรุ่นพี่ตัวเล็ก “….ควานลินเค้ามีคนเข้ามาจีบเยอะมากเลย ต-แต่ก็ยังไม่ได้ตอบรับอะไรใครซักคนเลยอะ แค่แจกยิ้มสดใส รับของเอาไว้ บอกขอบคุณครับเหมือนไอดอลรับของจากแฟนคลับแค่นั้นเอง”

 

ใจนึงก็แอบโล่งอกที่ควานลินยังไม่มีท่าทีชอบใคร แต่อีกใจนึงก็แอบกังวล ไลควานลินท่าทางเป็นคนซื่อที่ไม่รู้ว่าคนเขาคิดยังไงกับตัวเอง หรือไม่ก็เป็นคนที่ไม่สนเรื่องความรักเลยแม้แต่น้อย มุ่งแต่เรื่องเรียนล้วนๆ แบบนี้แล้วชาติไหนจะจีบติดก็ไม่อาจทราบได้

 

จีฮุนถึงกับสูบบุหรี่อีกมวนด้วยความเครียด และที่เหลือก็ดูจะรับรู้ได้ แดเนียลฉีกซองเยลลี่ที่แอบซุกไว้ในกระเป๋ากางเกงพลางถาม “จะให้พวกเราช่วยยังไงดีล่ะ?”

 

“แดเนียล จินยอง อูจิน…พวกนายคอยจับตาดูควานลินไว้ อย่าให้ใครมาตัดหน้าฉัน แต่อย่ารุนแรงมากล่ะ เดี๋ยวพวกสภานักเรียนเข้ามายุ่ง น่ารำคาญ”

 

“งั้นก็ตีสนิทเนียนๆ…จะพยายาม” จินยองพยักหน้ารับรู้

 

“แล้วก็…ที่เหลือผมจะช่วยพี่จีฮุนเอง” น้องเล็กยิ้มกว้าง เป็นอันว่าหน้าที่ของทุกคนในปฏิบัติการช่วยลูกพี่ให้ได้สมหวังก็ถูกจัดแจงเรียบร้อย บางทีมันอาจจะได้ผล…มั้ง แต่ที่แน่ๆคือพวกเขาทุกคนมั่นใจว่าจะต่อยตีชนะมากกว่ามาทำอะไรแบบนี้เสียอีก

 

แต่ก็เอาวะ ลองกันซักตั้ง

 

TBC.


 

เรื่องนี้คาดว่าประมาณ5-6ตอนจบนะคะ ฟิคใสๆไม่มีอะไรเลยจริงๆ55555555 เม้ามอยได้ในแท็กและในทวิต @reyzaka เหมือนเดิมค้าบ

ใส่ความเห็น